ทำยังไงให้ใช้คอมพิวเตอร์ได้นานๆ


คอมพิวเตอร์เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมชำรุดไปตามสภาพระยะเวลาที่ใช้งาน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรเอาใจใส่ ดูแลและบำรุงรักษา อย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอายุ การใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยให้สามารถ ประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานได้ดีนั้นคืออย่างไร เช่น ในห้องคอมพิวเตอร์ของคุณควรจะมีอุณหภูมิสูงเท่าไร มีความชื้นไม่เกินเท่าไร ขีดจำกัดของการทำงานเป็นอย่างไร ระยะเวลาในการทำงานของเครื่องเป็นอย่างไร ดังนั้น ห้องทำงานด้านคอมพิวเตอร์จึงควรเป็นห้องปรับอากาศที่ปราศจากฝุ่นและ ความชื้น ซอฟแวร์ แผ่นดิสก์ที่เก็บซอฟแวร์ และไฟล์ข้อมูล หรือสารสนเทศนั้น อาจเสียหายได้ ถ้าหากว่า แผ่นดิสต์ได้รับการขีดข่วน ได้รับความร้อนสูง หรือตกกระทบกระแทกแรง ๆ สิ่งที่ทำ ลายซอฟแวร์ได้แก่ ความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน และการฉีดสเปรย์พวกน้ำยาหรือน้ำหอม ต่าง ๆ เป็นต้น การทำความสะอาดระบบคอมพิวเตอร์
1. ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด
2. อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด ใช้ผ้าแห้งดีกว่า
3. อย่าใช้สบู่ น้ำยาทำความสะอาดใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบของเครื่อง เกิดความเสียหาย
4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
5. ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
6. ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่คู่มือแนะนำไว้เท่านั้น
7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์
8. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุที่ทำให้เครื่องพีซีเกิดความเสียหาย
ความร้อน
ความร้อนที่เป็นสาเหตุทำให้คอมพิวเตอร์มีปัญหา ส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เองวิธีแก้ปัญหา คือ จะต้องรีบระบายความร้อนที่เกิดจากอุปกรณืต่างๆ ออกไปให้เร็วที่สุด
วิธีแก้ปัญหา
 * พัดลมระบายความร้อนทุกตัวในระบบ ต้องอยู่ในสภาพดี 100 เปอร์เซนต์ อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดควรจะอยู่ระหว่าง 60-70 องศาฟาเรนไฮต์
 * ใช้เพาเวอร์ซัพพลาย ในขนาดที่ถูกต้อง
  * ใช้งานเครื่องในย่านอุณหภูมิที่ปลอดภัย อย่าตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงเป็นเวลานานๆ
ฝุ่นผง
เป็นที่ทราบกันดีว่าในอากาศมีฝุ่นผงกระจัดกระจายอยู่ในทุกๆ ที่ ฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่บนแผงวงจรของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เสมือนฉนวนป้องกันความร้อน ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบ ไม่สามารถระบายออกสู่สภาพแวดล้อมภายนอก นอกจากนี้อาจไปอุดตันช่องระบายอากาศของเพาเวอร์ซัพพลายหรือฮาร์ดดิสค์ หรืออาจเข้าไปอยู่ระหว่างแผ่นดิสค์กับหัวอ่าน ทำให้แผ่นดิสค์หรือหัวอ่านเกิดความเสียหายได้
วิธีแก้ไข
 * ควรทำความสะอาดภายในเครื่องทุก 6 เดือน หรือทุกครั้งที่ถอดฝาครอบ
 * ตัวถัง หรือ ชิ้นส่วนภายนอกอาจใช้สเปรย์ทำความสะอาด
 * วงจรภายในให้ใช้ลมเป่าและใช้แปรงขนอ่อนๆ ปัดฝุ่นออก
 * อย่าสูบบุหรี่ใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์
สนามแม่เหล็ก
แม่เหล็กสามารถทำให้ข้อมูลในแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก็สูญหายได้อย่างถาวร แหล่งที่ให้กำเนิดสนามแม่เหล็กในสำนักงานมีอยู่มากมาหลายประเภท อาทิเช่น
 * แม่เหล็กติดกระดาาบันทึกบนตู้เก็บแฟ้ม
  * คลิปแขวนกระดาษแบบแม่เหล็ก
 * ไขควงหัวแม่เหล็ก
 * ลำโพง
  * มอเตอร์ในพรินเตอร์
 * UPS
วิธีแก้ไข
 * ควรโยกย้ายอุปกรณ์ที่มีกำลังแม่เหล็กมากๆ ให้ห่างจากระบบคอมพิวเตอร์
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้า
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้ามีหลายลักษณะ อาทิเช่น
 * แรงดันเกิน
 * แรงดันตก
 * ทรานเชียนต์
 * ไฟกระเพื่อม
แรงดันเกิน
ในกรณีที่เครื่องของท่านได้รับแรงดันไฟฟ้าเกินจากปกติ เป็นเวลานานกว่า วินาที จะมีผลทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเกิดความเสียหายได้
แรงดันตก
ในกรณีที่มีการใช้ไฟฟ้ากันมากเกินความสามารถในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า จะมีผลทำให้เกิดเหตุการณืไฟตกได้ ไฟตกอาจทำให้การทำงานของเพาเวอร์ซัพพลายผิดพลาดได้ เนื่องจากเพาเวอร์ซัพพลายพยายามจ่ายพลังงานให้กับวงจรอย่างสม่ำเสมอ โดยไปเพิ่มกระแส แต่การเพิ่มกระแสทำให้ตัวนำ เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์ต่างๆ ร้อนขึ้น ซึ่งมีผลทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เกิดความเสียหายได้
ทรานเชียนต์
ทรานเชียนต์ หมายถึง การที่ไฟฟ้ามีแรงดันสุง (sags) หรือต่ำกว่าปกติ ( surge) ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทรานเชียนต์ที่เกิดในบางครั้งจะมีความถี่สูงมาก จนกระทั่งสามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย เข้าไปทำความเสียหายให้แก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้
ไฟกระเพื่อม
ทุกครั้งที่ท่านเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า จะทำให้กำลังไฟเกิดการกระเพื่อม เครื่องใช้ไฟฟ้ที่ต้องการกระแสไฟฟ้ามากๆ ก็จะทำให้ความแรงของการกระเพื่อมมีค่ามากตามไปด้วย จากการศึกษาพบว่า การเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการกระเพื่อม- ครั้ง ภายในเสี้ยววินาที การกระเพื่อมจะมีผลต่อทุกๆ ส่วนภายในตัวเครื่อง รวมทั้งหัวอ่านข้อมูลของฮาร์ดดิสค์ด้วย
วิธีแก้ไข
 * ในกรณีไฟเกิน ไฟตก และทรานเชียนต์ แก้ไขได้โดยการใช้เครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้า หรือ ที่เรียกว่า Stabilizer
 * ส่วนไปกระเพื่อม แก้ได้โดยการลดจำนวนครั้งในการปิดเปิดเครื่อง
ไฟฟ้าสถิตย์
ไฟฟ้าสถิตย์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล แต่ในสภาวะที่อากาศแห้ง จะส่งผลให้ความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และหาทางวิ่งผ่านตัวนำไปยังบริเวณที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า ดังนั้นเมื่อท่านไปจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จากตัวท่านจะวิ่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น ทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ แต่ในสภาวะที่มีความชื้นสูง ไฟฟ้าสถิตย์ที่เกิดขึ้นจะรั่วไหลหายไปในระยะเวลาอันสั้น
วิธีแก้ไข
 * ควรทำการคายประจุไฟฟ้าสถิตย์ ด้วยการจับต้องโลหะอื่นที่ไม่ใช้ตัวถังเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
น้ำและสนิม
น้ำและสนิมเป็นศัตรูตัวร้ายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด สนิมที่พบในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ มักจะเกิดจากการรั่วซึมของแบตเตอรี่บนเมนบอร์ด ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้น นั่นหมายความว่าท่านจะต้องควักกระเป๋าซื้อเมนบอร์ดตัวใหม่มาทดแทนตัวเก่าที่ต้องทิ้งลงถังขยะสถานเดียว
วิธีแก้ไข
 * หลีกเลี่ยงการนำของเหลวทุกชนิดมาวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของท่าน
 * กรณีการรั่วซึมของแบตเตอรี่ แก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เมื่อเครื่องของท่านมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1-2 ปี เป็นต้นไป
การบำรุงรักษาตัวเครื่องทั่วๆไป
 * เครื่องจ่ายไฟสำรอง (UPS) ถ้ามีงบประมาณเพียงพอควรติดตั้งร่วมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยเพราะ UPS จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาทางไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดความเสียหายของข้อมูลและชิ้นส่วนอื่นๆ
  * การติดตั้งตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ควรติดตั้งในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ หรือถ้ามีไม่มีเครืองปรับอากาศควรเลือกห้องที่ปลอดฝุ่นมากที่สุด และการติดตั้งตัวเครื่องควรจากผนังพอสมควรเพื่อการระบายความร้อนที่ดี
 * การต่อสาย Cable ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ต่างๆเช่น Printer Modem Fax หรือส่วนอื่นๆจะต้องกระทำเมื่อ power off เท่านั้น
 * อย่าปิด - เปิดเครื่องบ่อยๆ เกินความจำเป็น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่โปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่
 * ไม่เคลื่อนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่เครื่องทำงานอยู่ เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางตัวเกิดความเสียหายได้
 * อย่าเปิดฝาเครื่องขณะใช้งานอยู่ ถ้าต้องการเปิดต้อง power off และถอดปลั๊กไฟก่อน
  * ควรศึกษาจากคู่มือก่อนหรือการอบรมการใช้งาน Software ก่อนการใช้งาน
  * ตัวถังภายนอกของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของเหล็กกับพลาสติกเมื่อใช้นานๆ จะมีฝุ่นและคราบรอยนิ้วมือมาติดทำให้ดูไม่สวยงามและถ้าปล่อยไว้นานๆ จะทำความสะอาดยาก จึงควรทำความสะอาดบ่อยๆอย่างน้อย 1-2 เดือนต่อครั้ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดที่ตัวเครื่อง หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ และที่สำคัญคือ ควรใช้ผ้าคลุมเครื่องให้เรียบร้อยหลังเลิกใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นผงต่างๆ
การบำรุงรักษา Hard Disk
ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุยืนมากยากจะบำรุงรักษาด้วยตัวเอง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายซึ่งควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
 * การติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์โดยให้ด้านหลังของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ห่างจากฝาผนังไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว เพื่อการระบายความร้อน 0 เป็นอย่างปกติไม่ทำให้เครื่องร้อนได้
  * ควรเลือกใช้โตีะทำงานที่แข็งแรงป้องกันการโยกไปมาเพราะทำให้หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ถูกกระทบกระเทือนได้
  * ควรมีการตรวจสอบสถานภาพของ Hard Disk ด้วยโปรแกรม Utility ต่างๆว่ายังสามารถใช้งานได้ครบ 100 % หรือมีส่วนใดของ Hard Disk ที่ใช้งานไม่ได้
การบำรุงรักษา Disk Drive
ช่องอ่านดิสก์เมื่อทำงานไปนานๆหัวอ่านแผ่นดิสก์อาจจะเสื่อมสภาพไปได้ หัวอ่านดิสก์เกิดความสกปรกเน่องจากมีฝุ่นละอองเข้าไปเกาะที่หัวอ่าน หรือเกิดจากความสกปรกของ แผ่นดิสก์ที่มีฝุ่น หรือคราบไขมันจากมือ ผลที่เกิดขึ้นทำให้การบันทึก หรืออ่านข้อมูลจากแผ่นดิสก์ไม่สามารถดำเนินการได้
การดูแลรักษา Disk Drive ควรปฏิบัติดังนี้
  * เลือกใช้แผ่นดิสก์ที่สะอาดคือไม่มีคราบฝุ่น ไขมัน หรือรอยขูดขีดใดๆ
 * ใช้น้ำยาล้างหัวอ่านดิสก์ทุกๆเดือน
 * หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นดิสก์เก่าที่เก็บไว้นานๆ เพราะจะทำให้หัวอ่าน Disk Drive สกปรกได้ง่าย
ก่อนนำแผ่นดิสก์ออกจากช่องอ่าน Disk Dirve ควรจะให้ไฟสัญญาณที่ Disk Drive ดับก่อน เพื่อป้องกันหัวอ่านชำรุด
การบำรุงรักษา Floppy Disk
แผ่นดิสก์มีความละเอียดมาก จึงควรมีการดูแลรักษาอยู่เสมอ เพราะ ถ้าแผ่นดิสก์ชำรุด หรือมีความสกปรก จะส่งผลกระทบต่อข้อมูล ที่บันทึกไว้หรือกำลังจะบันทึกใหม และที่สำคัญคือ จะสร้างความเสียหายให้แก่หัวอ่านดิสก์ด้วยผู้ใช้คอมพิวเตอร์ จึงควรระมัดระวังดูแลเอาใจใส่ โดยควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
 * ระมัดระวังอย่าให้มือไปถูกบริเวณที่เป็นแม่เหล็กของแผ่นดิสก์ เพราะไขมันบริเวณผิวหนังของเรา จะทำให้เกิดความสกปรกต่อบริเวณที่บันทึกข้อมูล
 * อย่าใช้แรงกดปากกาเกินไป ขณะเขียนที่แผ่นป้ายชื่อของแผ่นดิสก์
 * อย่าให้แผ่นดิสก์อยู่ใกล้ บริเวณที่มีคลื่นแม่เหล็กมากๆ เช่นเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นบน MONITO หรือเครื่องโทรศัพท์แบบหมุน
 * อย่าบิดหรืองอแผ่นดิสก์เล่นเป็นอันขาด
 * อย่าให้แผ่นดิสก์มีรอยขูดขีด หรือถูกของเหลวเช่นน้ำ ดังนั้นเมื่อใช้แผ่นดิสก์เสร็จแล้วพยายาม เก็บไว้ในซองบรรจุให้เรียบร้อย
 * ควรเก็บแผ่นดิสก์ไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม อย่าทิ้งไว้หน้ารถให้ตากแดดนานๆ

การบำรุงรักษา Monitor
ในส่วนของจอภาพนั้นอาจเสียหายได้เช่น ภาพอาการเลื่อนไหลภาพล้ม ภาพเต้นหรือไม่มีภาพเลย ซึ่งความเสียหายดังกล่าวจะต้องให้ช่างเท่านั้นเป็นผู้แก้ไข ผู้ใช้คอมพิวเคอร์ควรระมัดระวัง โดยปฏิบัติดังนี้
 * อย่าให้วัตถุหรือน้ำไปกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์
 * ควรเปิดไฟที่จอก่อนที่สวิซไฟที่ CPU เพื่อ boot เครื่อง
 * ไม่ควรปิดๆ เปิดๆ เครื่องติดๆกัน เมื่อปิดเครื่องแล้วทิ้งระยะไว้เล็กน้อยก่อนเปิดใหม่
  * ควรปรับความสว่างของจอภาพให้เหมาะสมกับสภาพของห้องทำงาน เพราะถ้าสว่างมากเกินไปย่อมทำให้จอภาพอายุสั้นลง
  * อย่าเปิดฝาหลัง Monitor ซ่อมเอง เพราะจะเป็นอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง
  * เมื่อมีการเปิดจอภาพทิ้งไว้นานๆ ควรจะมีการเรียกโปรแกมถนอมจอภาพ (Screen Sever) ขึ้นมาทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานของจอภาพ
การบำรุงรักษา Inkjet & Dotmatrix Printer
เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแสดงผล รายงาน ของข้อมูลต่างๆทางกระดาษ การที่จะใช้เครื่องพิมพ์ทำงานได้เป็นปกติผู้ใช้คอมพิวเตอร์ควรหมั่นดูแลรักษาดังนี้
 * รักษา ความสะอาด โดยดูดฝุ่น เศษกระดาษที่ติดอยู่ในเครื่องพิมพ์ทุกเดือนหรือใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นเศษ กระดาษออกจากเครื่องพิมพ์อย่าใช้แปรงชนิดแข็งเพราะอาจทำให้เครื่องเป็นรอย ได้
 * ถ้า ตัวเครื่องพิมพ์มีความสกปรกอาจ ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดเครื่องใช้สำนักงานเช็ดถูส่วนที่ เปนพลาสติกแต่ต้องระมัดระวังอย่าใช้น้ำเข้าตัวเครื่องพิมพ์ได้ และควร หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด ในตัวเครื่องเพราะอาจทำให้ระบบกลไกเสียหายได้
 * ก่อนพิมพ์ทุกครั้งควรปรับความแรง ของหัวเข็มให้พอเหมาะกับความหนาของกระดาษ
 * ระหว่างพิมพ์ควรระวังหัวพิมพ์จะติดกระดาษ เช่น การพิมพ์ซองจดหมาย หรือกระดาษที่มีความหนาหรือบางเกินไป
 * อย่าถอดหรือเสียบสาย Cable ในขณะที่เครื่องพิมพ์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่
 * ไม่ควรพิมพ์กระดาษติดต่อกันนานเกินไปเพราะอาจทำให้หัวอ่านร้อนมากทำให้เครื่องชะงักหยุดพิมพ์กระดาษ
 * เมื่อเลิกพิมพ์งานควรนำกระดาษออกจากถาดกระดาษ และช่องนำกระดาษ
 * ไม่ควรใช้กระดาษไข (Stencil Paper) แบบธรรมดากับเครื่องพิมพ์ประเภทแบบกระแทก (Dotmatrix Printer) เนื่องจากเศษของกระดาษไขอาจจะไปอุดตันเข็มพิมพ์ อาจทำให้เข็มพิมพ์อาจหักได้ควรใช้กระดาษไขสำหรับเครื่องพิมพ์แทน เพื่อป้องกันการชำรุดของเฟืองที่ใช้หมุนกระดาษ
การบำรุงรักษา Laser Printer
Laser Printer เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถพิมพ์ภาพได้อย่างคมชัดมากมีความละเอียดสวยงาม แต่ราคาค่อนข้างสูงผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังในการใช้งานแม้ว่าโอกาสจะเสียหายมีน้อยก็ตาม ข้อควรปฏิบัติดังนี้
 * การเลือกใช้กระดาษไม่ควรใช้กระดาษ ที่หนาเกินไปจะทำให้กระดาษติดเครื่องพิมพ์ได้
 * ควรกรีดกระดาษให้ด ี อย่าให้กระดาษติดกัน เพราะอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระดาษติดในตัวเครื่องพิมพ์ได้
 * การใช้พิมพ์ Laser Printer พิมพ์ลงในแผ่นใส ก็ต้องเลือกใช้แผ่นใสที่ใช้ถ่ายเอกสารได้เท่านั้น หากใช่แผ่นใสแบบธรรดาซึ่งไม่สามารถทนความร้อนได้อาจจะหลอมละลายติดเครื่องพิมพ์ทำให้เกิดความเสียหาย

วิธีการตรวจสอบ ในการใช้งาน AIS 3G 2100

วิธีการตรวจสอบ ในการใช้งาน AIS 3G 2100
ลองดูครับ... วิธีการตรวจสอบ เพื่อให้คุณสามารถใช้งาน AIS 3G 2100 แบบเข้าใจง่าย http://www.ais.co.th/3g/Quick-Guide/
ที่มา: aisclub.ais.co.th

Fix Runtime Error 217 - How To Fix Runtime Error 217

Are you tired of wasting so much time for searching how to fix Runtime Error 217? Does the infamous Runtime Error 217 cause your slow computer to suffer serious data loss, frequent system freezes, Blue Screen of Death errors, and application installation or removal failure or virus attacks? If your computer often falls into the trouble of Runtime Error 217, you can use the two absolutely simple ways below to fix Runtime Error 217 within minutes.

 What is Runtime Error 217? How to Fix Runtime Error 217 Instantly and Efficiently?

 Runtime Error 217 is a kind of common computer error that appears in the form of a message box that consists of a particular corresponding definition of the system error. These issues can cause Runtime Error 217:

 conflicts between the Terminate and Stay Resident Program
 applications confliction
 software issues
 memory usage faculty
 What causes Runtime Error 217?

 Windows registry serves as an important component in computing due to it holds and retrieves the entire amount of crucial information of the system, such as profiles for each user, the settings of applications installed on the computer and the types of documents that each can create, property sheet settings for folders and application icons, hardware and the kernel data. It can note down the computing in the system and permit the surprising number of registry errors and system errors staying in the system, besides Runtime Error 217. Runtime Error 217 leads to system shutdown problems, Blue Screen of Death errors, system crashes and dreaded system data loss.

 How to Easily, Safely and Instantly fix Runtime Error 217 within few clicks? Are there any methods that can fix Runtime Error 217 within Few Clicks?

 The best way is to install an excellent registry cleaner which offers you absolutely professional service to eternally and efficiently fix the variety kinds of registry errors and runtime errors in your computer, besides Runtime Error 217.

 An advanced, reliable and high- engineered registry cleaner can provide you with absolutely helpful and professional solution to eternally, instantly and thoroughly fix the various kinds of Runtime Error 217 and registry errors, such as empty registry keys, embedded keys, invalid uninstall entries, sound sections, help sections, invalid shortcuts and invalid file extensions, in Windows Registry on purpose to speed up computer and completely help you out from the Runtime Error 217 problem.

 If you want to find out more tips to fix Runtime Error 217, you can click: Fix Runtime Error 217

 Are you tired of searching how to fix Runtime Error 217? Do you want to fix Runtime Error 217 within few mouse- clicks? I highly recommend you to install the Best Registry Cleaner with a free scan! 

จะโพสโฆษณา adsense ads เข้าไปในโพสบล็อก blogger ยังไง ให้ได้เงินเยอะๆ

How to place Adsense below post title for higher CTR

เห็นบล็อกเมืองนอกเขาทำกันอยากทำบ้าง ทางนี้เลยเป็นภาษาไทย จัดไปครับ
ง่ายนิดเดียวกับการใส่ โฆษณา adsense ลงไปในบทความเรา เพื่อทำเงิน

ถามว่าทำไมต้องเอาไว้ใต้หัวข้อด้วย ก็เพราะว่าตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งที่มี CTR สูงที่สุด อ้างอิงจาก Adsense Best practices for ad placement เองเลยครับ เป็นภาษาอังกฤษนะครับอันนั้น สะดุดตามากสุด คนส่วนใหญ่จะมองกลางจอก่อนเสมอ และมีโอกาสที่จะกดเข้าไปเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นเรามาดูวิธีการวาง adsense กันครับ ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง ไม่กี่ขั้นตอนต่อจากนี้

ads placement
 การวาง adsense ไว้ใต้หัวข้อ และก่อนถึงบทความเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด ในการทำเงิน ดังนั้น เรามาดูวิธีการกันครับ

1. การสร้าง ads สำหรับ ที่จะวางในหน้า blogger เราก่อนเลยครับ ดังนี้

1. log in Google Adsense และสร้าง unit ads ขึ้นมาใหม่
2. ขนาดที่ดีที่สุดคือ 300 x 250 Medium Rectangle หรือ  336 x 250 Large Rectangle Format และก็อย่าลืม ใส่ channel ใหม่ให้มันด้วย ไว้สำหรับเช็คข้อมูลภายหลัง
3. เมื่อ set up ทุกอย่างเสร็จ เราจะได้ code สำหรับไปติดตั้งใน blogger ของเรา แต่เดี๋ยวก่อน เพราะ code ทีได้มานี้ไม่สามารถนำไปใช้ได้เลย ต้องมีการแปลง code ก่อน
4. เข้าไปตาม link นี้ HTML escape เพื่อเอา code ที่เราได้ copy ไว้ เอาไปแปลงให้เป็น code ที่ blogger เข้าใจ เพื่อจะให้แสดง โฆษณา adsense เราขึ้นในหน้าบล็อก
5. copy ตัว code ที่ได้แปลงแล้ว ไว้

2. เพิ่มตัว adsense code ที่แปลงแล้วเข้าไปใน บทความของเรา

1. หน้า Design blog ของเรา เข้าไปที่หน้า template >> edit HTML
2. หาประโยคด้านล่างนี้ โดยใช้คำสั่ง Find หรือ กด Ctrl + F
     
    <data:post.body/>
    ถ้าใครหาไม่เจอ ในลองเปิดตัว code จนกว่าจะเจอ บรรทัดประมาณ 1400-1550
มันจะอยู่ในหัวข้อ post

ลองหากันดูนะ

3. หาเจอแล้ว เอาตัว code ที่เรา copy ไว้ paste ลงด้านบนของ <data:post.body/>
    ตัวอย่างด้านล่าง

     code ของเรา
     <data:post.body/>






4. save และลองเปิดดู ผลงาน

3. ติดตามผลงาน


   ขอแจ้งให้ทราบไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ข้อมูลด้านบนไม่ใช่ สูตรสำเร็จ แต่ละบล็อก อาจต้องติดตั้งตัว ads ที่แตกต่างกันไปบ้าง ก็ต้องลองไปทดสอบกันดู แล้วก็คอยติดตามผลเอา

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงจะได้รับอะไรดีๆไปในวันนี้

ขอให้ทุกท่าน ร่ำรวยๆ

Samsung Galaxy S4 (Galaxy S IV) ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4 spec รายละเอียด โทรศัพท์มือถือ

ลักษณะเด่นประจำรุ่นโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

  • จอแสดงผลแบบ Full HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 4.99 นิ้ว : 441 ppi) พร้อมฟังก์ชัน Smart Scroll, Smart Pause, Air Gesture และ Air View
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 5410 (1.6 GHz Octa-Core Processor) (ซีพียูแบบ Quad-Core Cortex-A15 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz และ Quad-Core Cortex-A7 ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
  • เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat3, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Infrared และ Bluetooth
  • กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels

รายละเอียดตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ

ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

• ระบบสัญญาณ Tri Mode (LTE/WCDMA/GSM)

- LTE Cat3 (รองรับได้สูงสุด 6 คลื่นความถี่ โดยขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่าย หรือตัวแทนจำหน่าย)

- WCDMA/HSPA+ Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)

- GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)

- ใช้งานร่วมกับซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น
• ขนาด 136.6x69.8x7.9 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 130 กรัม
• ชนิดจอแสดงผลแบบ Full HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 4.99 นิ้ว : 441 ppi)

- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Triple-Core PowerVR SGX 544MP3 หรือแบบ Adreno 320 (สำหรับ Samsung Galaxy S4 (Galaxy S IV) เวอร์ชันเฉพาะของบางตัวแทนจำหน่าย)

- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน

- หน้าจอมีการตอบสนองที่ไวเป็นพิเศษ (Auto Adjust Touch Sensitivity) สามารถสั่งงานด้วยการสัมผัสได้แม้ในขณะที่กำลังสวมถุงมือ

- ฟังก์ชัน Smart Scroll รองรับการเลื่อนบรรทัดไปตามระดับสายตาโดยอัตโนมัติ ขณะเปิดดูหน้าเว็บไซต์, อีเมล หรืออ่านหนังสือ E-Book และอื่นๆ

- ฟังก์ชัน Air View รองรับการดูตัวอย่างของเนื้อหาภายใน ด้วยการชี้ปลายนิ้วไปใกล้ๆ กับหน้าจอแสดงผล

- ฟังก์ชัน Air Gesture รองรับการปัดฝ่ามือเพื่อเปลี่ยนเพลง, เลื่อนหน้าเว็บไซต์ หรือรับสาย

- ฟังก์ชัน Smart Stay รองรับการตรวจจับสายตาของผู้ใช้ เพื่อการเปิดหน้าจอค้างไว้โดยอัตโนมัติ

- User Interface แบบ TouchWiz UI

- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)

- ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้

- ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

- ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor

- RGB Light
• ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 2600 mAh
• ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ - ชั่วโมง
• ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ - ชั่วโมง
• Samsung Galaxy S4 (Galaxy S IV) เวอร์ชันขายทั่วโลก ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 5410 (1.6 GHz Octa-Core Processor)

- ซีพียูแบบ Quad-Core Cortex-A15 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz และ Quad-Core Cortex-A7 ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz

- CPU Cores แบบ 4+4 (Exynos 5 Octa : Octa-Core Processor)
• Samsung Galaxy S4 (Galaxy S IV) เวอร์ชันเฉพาะของบางตัวแทนจำหน่าย ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600

- ซีพียูแบบ Quad-Core Krait 300 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.9 GHz
• ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.2 (Jelly Bean)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB
• หน่วยความจำ RAM (LPDDR3) ขนาด 2 GB
• รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
• รองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ Dropbox (ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 50 GB)
• หน่วยความจำสมุดโทรศัพท์
• บันทึกข้อมูลการโทร (โทรออก, รับสาย, ไม่รับสาย)

คุณสมบัติเกี่ยวกับข้อความ

ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

• SMS (Short Messaging Service)
• MMS (Multimedia Messaging Service)
• Email

- รองรับการใช้งานระบบ Push Email

- รองรับการใช้งานบริการระบบอีเมลของ Gmail
• Instant Messaging (ChatON, Google Talk)
• SNS (Social Network Service)

- รองรับการใช้งาน Google+, Facebook, Twitter, Picasa
• ฟังก์ชัน S Translator สำหรับการแปลคำพูดให้เป็นภาษาต่างๆ

- รองรับการใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Speech to Text และ Text to Speech

- รองรับการใช้งาน 9 ภาษา (จีน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, เกาหลี, อิตาลี, โปรตุเกส, สเปน และญี่ปุ่น)

- ใช้งานได้โดยไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
• ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (Swype)

คุณสมบัติเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ

ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

• HTML Browser

- รองรับ Adobe Flash

- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน RSS Feeds
• WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 a/b/g/n/ac : HT80)

- รองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)

- เทคโนโลยี WiFi Direct รองรับการเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องได้โดยตรง โดยไม่ต้องอาศัยเครือข่าย หรือตัวกระจายสัญญาณ WiFi

- สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่ายแบบ DLNA (Digital Living Network Alliance)

- ฟังก์ชัน WiFi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ WiFi
• LTE Cat3 (ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 100 Mbps : ความเร็วในการอัพโหลดสูงสุด 50 Mbps)
• HSDPA (42.2 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
• EDGE
• GPRS
• NFC (Near Field Communication : การสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ : อ่าน, เขียน, แชร์)
• Bluetooth เวอร์ชัน 4.0

- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)

- รองรับเทคโนโลยี EDR (Enhanced Data Rate)

- รองรับเทคโนโลยี BLE (Bluetooth Low Energy)
• Infrared Port

- ฟังก์ชัน IR LED Remote Control พร้อมแอพพลิเคชั่น Samsung WatchON สำหรับการควบคุมโทรทัศน์, เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม, เครื่องเล่นดีวีดี, เครื่องปรับอากาศ
• USB Data Cable (microUSB : USB เวอร์ชัน 2.0)

- รองรับเทคโนโลยี MHL เวอร์ชัน 2.0 (Mobile High-Definition Link)

- รองรับการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกผ่านทางสาย MHL

- รองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน
• ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)

- ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System)

- ฟังก์ชัน S Voice Drive รองรับการโต้ตอบกับเครื่องด้วยเสียงพูด ขณะที่ขับขี่ยานพาหนะ

- รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย (GLONASS : Global Navigation Satellite System)

- ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านทางโปรแกรม Google Maps

- โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
• ฟังก์ชัน Group Play รองรับการแชร์เพลง, แชร์รูปภาพ, แชร์เอกสาร และเล่นเกมส์ร่วมกัน
• ค้นหาและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านทาง Google Play Store
• ค้นหาและเปิดดูคลิปวิดีโอบน YouTube
• ค้นหาข้อมูลผ่านโปรแกรม Google Search

- รองรับการใช้งานระบบการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search)

คุณสมบัติทั่วไป

ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

• เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones

- รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3, WAV

- แสดงรูปภาพขณะมีสายเรียกเข้า (Photo Caller ID)

- ระบบสั่นในตัว
• นาฬิกาบอกเวลา
• นาฬิกาแสดงเวลาทั่วโลก
• ตั้งปลุก
• โปรแกรม Organizer
• ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
• เครื่องคิดเลข
• โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง FLAC, OGG, MP3, AMR-NB, AMR-WB, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, AC-3, APT-X

- ฟังก์ชัน Group Play รองรับการเปิดเพลงเดียวกัน พร้อมกัน 2 เครื่อง โดยแบ่งได้ว่าเครื่องใดจะทำหน้าที่เป็นลำโพงด้านซ้าย และลำโพงด้านขวา ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงแบบรอบทิศทาง (Surround Sound)
• โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ DivX, DivX 3.11, MPEG4, H.263, H.264, VC-1, VP8, WMV, Sorenson Spark, HEVC

- ฟังก์ชัน Smart Pause รองรับการหยุดเล่นวิดีโอ เมื่อมีการละสายตาจากหน้าจอ และเริ่มเล่นอีกครั้งเมื่อมองไปที่หน้าจอ
• ลำโพงเสียงในตัว (Loudspeaker)
• โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร Word, Excel, PowerPoint, PDF
• โปรแกรมอัลบั้มรูปภาพ (Photo Album)

- สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของอัลบั้มได้ด้วยธีม (Themes)

- ฟังก์ชัน Story Album สำหรับการสร้างอัลบั้มรูปภาพตามเรื่องราวภายในภาพถ่าย
• เซ็นเซอร์ตรวจวัดความกดอากาศ (Barometer Sensor)
• เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ (Temperature)
• เซ็นเซอร์ตรวจวัดความชื้น (Humidity)
• โปรแกรม S Health สำหรับการติดตามข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้งาน
• โปรแกรม S Travel (Trip Advisor)
• ฟังก์ชัน S-Voice สำหรับการสั่งงาน และโต้ตอบด้วยเสียงพูด
• ไมโครโฟนแยกเฉพาะสำหรับการสนทนา พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
• สั่งงานด้วยเสียง
• โทรออกด้วยเสียง
• บันทึกเสียง
• Handsfree และ Speakerphone ในตัว

คุณสมบัติอื่น ๆ

ซัมซุง แกแล็กซี่ เอส 4

• ตัวเครื่องผลิตจากวัสดโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate)
• กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels

- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 4128x3096 Pixels

- เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด

- ไฟแฟลชในตัว (LED Flash)

- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)

- ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)

- การจับภาพแบบทันทีทันใดโดยไร้ซึงการหน่วงเวลา (Zero Shutter Lag)

- ฟังก์ชัน Drama Shot รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 100 ภาพใน 4 วินาที พร้อมรองรับการรวมให้เป็นภาพเดียวกัน

- ฟังก์ชัน Sound and Shot รองรับการถ่ายภาพ พร้อมการแนบเสียงไว้ในไฟล์ภาพ

- ฟังก์ชัน Eraser สำหรับการลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกไปจากภาพถ่าย

- ฟังก์ชัน Samsung Optical Reader สำหรับการวิเคราะห์ข้อความ, นามบัตร หรือ QR Code

- ฟังก์ชัน Dual Shot รองรับการถ่ายภาพได้พร้อมกัน ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง

- ฟังก์ชัน 360 Photo

- ฟังก์ชัน Cinema Photo

- ฟังก์ชัน Best Photo รองรับการเลือกรูปภาพที่ดีที่สุด

- ฟังก์ชัน Best Face รองรับการเลือกใบหน้าที่ดีที่สุด

- ฟังก์ชัน Beauty Face

- โหมดถ่ายภาพในแนวกว้าง (Panorama Mode)

- โหมดถ่ายภาพในที่มืด (Night Shot)

- โหมดการถ่ายภาพ และวิดีโอแบบ Simultaneous HD

- โหมดถ่ายภาพแบบ HDR (High Dynamic Range)

- ฟังก์ชัน Face Detection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการโฟกัสไปที่ใบหน้าของผู้ถูกถ่าย

- ฟังก์ชัน Smile Detection ถ่ายภาพอัตโนมัติเมื่อผู้ถูกถ่ายมีการยิ้ม

- ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย

- ระบบป้องกันการสั่นไหวของรูปภาพ (Image Stabilization)

- โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ

- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps)

- ฟังก์ชัน Dual Camera รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้พร้อมกัน ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง พร้อมเอฟเฟค และกรอบสำหรับภาพวิดีโอบนกล้องหน้า

- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ
• กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels (1600x1200 Pixels)


- เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด

- การจับภาพแบบทันทีทันใดโดยไร้ซึงการหน่วงเวลา (Zero Shutter Lag)

- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps)

- รองรับการใช้งาน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ) พร้อมฟังก์ชัน Dual Camera
• เซนเซอร์ตรวจวัดความกดอากาศ (Barometer Sensor)
• รองรับ Java Applications (ใช้งานผ่านทาง Java MIDP Emulator)
• เกมส์ในเครื่อง
• มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (Black Mist และ White Frost)
• กำหนดการเปิดตัว วันที่ 14 มีนาคม ปี ค.ศ. 2013 (งาน Samsung Unpacked 2013)
• กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2013
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ จาก Thaimobilecenter